วิธีทำน้ำมันมะรุมแบบง่าย ๆ เพื่อนใช้ในครัวเรือน นำเมล็ดมะรุมที่แห้งคาต้นมาบดให้ละเอียด ใส่หม้อ เติมน้ำให้ท่วมเป็น 2 เท่า ตั้งไฟ เดือดแล้วหรี่ไฟลง เคี่ยวไฟอ่อน ๆ ไปเรื่อย ๆ พอน้ำเริ่มงวด น้ำมันจะซึมขึ้นมา เช่นเดียวกับการทำน้ำมันมะพร้าว ไม่จำเป็นต้องรอจนน้ำ้แห้งสนิท ถ้ามีน้ำเหลือติดนิดหน่อย ไม่เป็นไร ทิ้งให้เย็น แล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบน้ำมันออกให้มากที่สุด นำน้ำมันที่บีบได้ตั้งไฟอ่อน ๆ อีกครั้ง เพื่อให้น้ำระเหยออกให้หมด พอเย็นกรอกใส่ขวด เก็บไว้ใช้ได้นานปี ไม่ต้องใส่ตู้เย็น สำหรับกากอย่าทิ้งให้นำไปใช้รองน้ำให้สะอาด เมื่อเสื่อมคุณภาพก็นำไปทำเป็หุ๋ยต่อไป
วิธีทำน้ำมันมะรุม
เขียนโดย CLicK AiR 0 ความคิดเห็น
สรรพคุณต่าง ๆ ของน้ำมันมะรุม
- ใช้ปรุงอาหารเช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก แต่ดีกว่าเพราะไม่มีกลิ่นเหม็นหืนภายหลัง
- ช่วยบำรุงรักษาผิวที่แห้งให้ชุ่มชื่น อ่อนนุ่ม และช่วยชะลอความเหี่ยวย่นของผิว
- ช่วยรักษาโรคเชื้อราตามผิวหนัง เช่น โรคน้ำกัดเท้า เชื้อราตามซอกเล็บและผิวแห้งเพราะเชื้อรา
- ช่วยรักษาแผลถูกมีดบาด หรือแผลสดเล็ก ๆ น้อย ๆ
- ลดอาการผื่นคันตามผิวหนัง และอาการแพ้ผ้าอ้อมของเด็กอ่อน
- ลดอาการปวดบวมของโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊าท์
- ช่วยรักษาแผลในปากหรือแผลของโรคปากนกกระจอก
- ใช้นวดกระชับกล้ามเนื้อ และบรรเทาอาการปวดเมืี่่อยของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี
- ช่วยบรรเทาอาการเกิดสิวบนใบหน้า
- ช่วยลบรอยจุดด่างดำของผิวอันเป็นผลจากการโดนแดด หรือการเสื่อมตามวัย
- ใช้นวดศีรษะ รักษาโรคเชื้อราบนหนังศีรษะ บรรเทาอาการผมร่วงง่าย และอาการคันศีรษะ
- ช่วยถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย
- บรรเาอาการปวดเมื่อยตามบั้นเอวและขา เนื่องจากยื่นนาน ๆ อาการปวดตามไหล่ และปวดศีรษะ
- ใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นต่าง ๆ ประจำบ้าน ทำให้สิ่งของไม่เป็นสนิม
เขียนโดย CLicK AiR 0 ความคิดเห็น
น้ำมันมะรุม
คนโบราณเรียกน้ำมันมะรุมนี้ว่า ฺBen Oil และนำไปใชเป็นน้ำมันหล่อลื่นนาฬิกาชนิดดีที่สุดในโลก รวมทั้งใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางราคาแพง
จากการค้นคว้าของนักวิจัยและประสบการณ์ของบุคคลรอบข้าง รวมทั้งตัวผู้เขียนเองได้พบว่า น้ำมันมะรุมมีคุณสมบัติที่พิเศษและมหัศจรรย์ ท่านอาจารย์ สุทธิวัสส์ ได้กรุณาอธิบายในวาระที่ท่านมาบรรยายที่วัดป่าธรรมชาติว่า น้ำมันมะรุมมีคุณสมบัติในการรักษาโรคน้ำกัดเท้า และโรคผิวหนังอันเกิดจากเชื้อราต่าง ๆ รวมทั้งป้องกันพยาธิไชเท้า ถ้านำมาทาเท้าก่อนย่ำน้ำ
ท่านอาจารย์สุทธิวัสส์กรุณาแจ้งว่า คุณแม่ท่านซึ่งมีอายุ 89 ปีป่วยหนัก มีอาการเป็นแผลเรื้อรังที่หลัง แพทย์ลงความเห็นว่าอาจจะไม่รอด ถ้าไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ท่านก็ไม่ยอมแพ้ และได้ตัดสินใจใช้น้ำมันมะรุมชะโลมแผล ในทีี่่สุดก็หายได้ในเวลาประมาณ 10 วัน
เขียนโดย CLicK AiR 0 ความคิดเห็น
คนเราพบเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ???
มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ
เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย
ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้
ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย
เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา ก็เข้ามา!
เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง
สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ
ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ
ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ
ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล
ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น
เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพนั้น
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่า เป็นศพ
ด้วยใจสงสาร จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป
จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก
ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน
เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด
^_^ คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย
เขียนโดย CLicK AiR 0 ความคิดเห็น